การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันประสิทธิผลการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบและตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างโมเดลประสิทธิผลการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกับข้อมูลเชิงประจักษ์ การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็นสองระยะ คือ ระยะแรกเป็นการพัฒนาโมเดล โดยศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ระยะที่สองเป็นการตรวจสอบสมมติฐานการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารและครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2560 จำนวน 400 คน ได้มาโดยใช้วิธีสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.28 ถึง 0.66 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .88 และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน
ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบของประสิทธิผลการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของโรงเรียนประกอบด้วย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณลักษณะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 ความพึงพอใจของครูและการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โมเดลองค์ประกอบประสิทธิผลการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของโรงเรียนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าสถิติวัดความกลมกลืนของโมเดล (x^2= 78.21, p-value = 0.98, df = 107, x^2/df = 0.73, RMSEA = 0.00, GFI = 0.98, AGFI = 0.96) และเมื่อพิจารณาค่าน้ำหนักองค์ประกอบ พบว่า ความพึงพอใจของครู มีค่าน้ำหนักมากที่สุด รองลงมา คือ คุณลักษณะของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามลำดับ

ABSTRACT
The purposes of this research were to analyze the factors of effectiveness in ICT management, and to examine the goodness-of-fit of hypothesis model with the empirical data. The study was divided into 2 stages. The first stage was developing model through a study of relevant papers and researches and an interview of experts. The second stage was verifying research hypothesis. The sample was 400 administrators and teachers in schools under the Office of the Basic Education Commission during academic year 2017, selected by multi-stage sampling. The data were gathered by using a rating scale questionnaire with discrimination value between 0.28 to 0.66 and reliability coefficient of .88. The statistic used for data analysis was confirmatory factor analysis.
The research results revealed that the factors of effectiveness in school ICT management were learning achievement, characteristics of the 21st century students, teacher satisfaction, and learning organization. The developed model had goodness-of-fit with the empirical data with the statistics as follows: (x^2= 78.21, p-value = 0.98, df = 107, x^2/df = 0.73, RMSEA = 0.00, GFI = 0.98, AGFI = 0.96). When considering the coefficient of factor loadings, the aspects were, ranking from the highest to the lowest, teacher satisfaction, characteristics of the 21st century students, learning organization, and learning achievement.