การบริหารจัดการระบบคุณภาพในโรงเรียนมาตรฐานสากลของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9

บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการบริหารจัดการระบบคุณภาพในโรงเรียนมาตรฐานสากล 2) เปรียบเทียบการบริหารจัดการระบบคุณภาพในโรงเรียนมาตรฐานสากล จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคลและลักษณะโรงเรียน 3) ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการระบบคุณภาพในโรงเรียนมาตรฐานสากล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัย ได้แก่ ครูและผู้บริหารในโรงเรียนมาตรฐานสากลของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม จำนวน 313 คน ได้มาด้วยการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามสัดส่วน และกลุ่มผู้ที่ตอบแบบสัมภาษณ์ จำนวน 9 คน ได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว สำหรับข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. การบริหารจัดการระบบคุณภาพในโรงเรียนมาตรฐานสากล พบว่า โดยภาพรวมและรายด้าน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
2. การบริหารจัดการระบบคุณภาพในโรงเรียนมาตรฐานสากล จำแนกตามเพศ ตำแหน่งการผ่านการอบรมวิชาที่สอน และขนาดของโรงเรียน มีระดับการบริหารจัดการระบบคุณภาพแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนจำแนกตามอายุ ประสบการณ์การทำงาน วิทยฐานะ ระดับการศึกษาสูงสุด และระยะเวลาการก่อตั้งของโรงเรียน มีระดับการบริหารจัดการระบบคุณภาพไม่แตกต่างกัน
3. แนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการระบบคุณภาพในโรงเรียนมาตรฐานสากล ประกอบด้วย 1) ด้านการวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ ควรมีการจัดทำระบบการวัดผลที่เหมาะสมและทันสมัย นำผลการวิเคราะห์ปรับปรุงการดำเนินงาน สร้างนวัตกรรมใหม่ให้สอดคล้องกับทิศทางจัดการศึกษาของโลกและการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ รวมทั้งจัดทำระบบการสื่อสารในด้านเอกสารและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ทั่วถึง 2) ด้านการจัดการกระบวนการ ควรมีกระบวนการวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาที่เป็นปัจจุบัน 3) ด้านการมุ่งเน้นผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ควรมีการประเมินความพึงพอใจเพื่อนำมาใช้ในการกำหนดแนวทางแก้ไขและปรับปรุงคุณภาพการจัดการเรียนการสอน และต้องสอดคล้องกับความต้องการและทิศทางการจัดการศึกษา

ABSTRACT
This research aimed to: 1) study the level of quality management system in world-class standard schools; 2) compare the quality management system in world-class standard schools as classified by personal status and school characteristics, and; 3) study the guidelines for improving a quality management system in world-class standard schools. The two-group sample included teachers and administrators in world-class standard schools under the Jurisdiction of Secondary Educational Service Area Office 9. The first sample group derived by proportional stratified random sampling was 313 questionnaire respondents. The second sample group selected by purposive random sampling was 9 interviewees. The research instruments were a questionnaire and an interview form constructed by the researcher. The statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, t-test, and one-way analysis of variance. The interview data was analyzed by content analysis.
The findings of this research were as follows:
1. The quality management system in the world-class standard schools was at a high level both in overall and specific aspects.
2. There were differences in the comparison results of school quality management as classified by gender, administrative position, training experience in teaching, and school size with statistical significance at .05. However, there were no statistical differences as classified by age, working experience, academic status, educational level and duration of school establishment.
3. The analytical results for development of school quality management suggested that: 1) in the aspect of assessment, analytical process and knowledge management, they should organize appropriate and modern assessment system, implement the analytical results to improve management, construct novel innovation to meet global educational movement and unpredictable factors, and well organize communication system both documentation and information technology. 2) In the aspect of managerial process, they should have analytical process appropriate to present contexts of educational movement. 3) In the aspect of student-centered management and stakeholder, they should evaluate satisfaction of students and stakeholders and apply the results for improving quality of learning management in correspondence with needs and educational movement.